การแปรรูปผลผลิต การแปรรูปอาหาร

การแปรรูปผลผลิต การแปรรูปอาหาร
การงานอาชีพและเทคโนโลยี

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

น้ำผึ้งจากกล้วย

น้ำผึ้งจากกล้วย

น้ำผึ้งจากกล้วย ( หมักเป็นเวลา ๑ เดือน )



กล้วยในประเทศไทยเรามีอยู่ด้วยกันหลายพันธุ์ 

แต่ที่เป็นที่นิยมรับประทานกันมากก็จะมี

กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยเล็บมือนาง 

กล้วยไข่  สำหรับในต่างประเทศนั้นกล้วยที่นิยม

รับประทานมากก็คือ กล้วยหอม 


                                          ส่วนผสม

                             กล้วยสุก            ๑             กิโลกรัม


                                           น้ำตาล                   ๑                    กิโลกรัม

( ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)    

วัสดุอุปกรณ์


                                                    ขวดโหลแก้ว หรือขวดโหลพลาสติก


(ขอขอบคุณภาพจากอินเคอร์เน็ต)

วิธีทำ

๑.  ปอกเปลือกกล้วยออกให้หมด ( กล้วยสุกต้องแก่จัดจึงจะรสชาติน้ำผึ้งจากกล้วยที่หอมอร่อย )

๒.  นำกล้วยที่ปอกเปลือกแล้วบรรจุลงในขวดโหล เทน้ำตาลลงไปบนกล้วยจนหมด ๑ กิโลกรัม


๓.  ปิดฝาขวดโหลให้แน่น หมักเอาไว้อย่างน้อย ๑ เดือน ( หมักไว้นานยิ่งดี )



๔.  เมื่อหมักกล้วยได้ ๑ เดือน น้ำที่ได้จากการหมักกล้วยจะมีรสหวานหอม 

     จึงได้เรียกว่า " น้ำผึ้งจากกล้วย" เมื่อหมักไว้นานๆ รสชาติยิ่งเข้มข้น


   

๕.  กล้วยที่นำมาหมัก เมื่อแยกน้ำหวานออกแล้วนำกล้วยไปตากแดดหรืออบ ก็จะได้กล้วยอบน้ำผึ้งที่มี

     รสชาติหอมอร่อย


๖.  นำน้ำที่ได้จากการหมักกล้วยมาเคี่ยวไฟอ่อนๆจนเป็นน้ำผึ้ง ( ไม่เคี่ยวไฟก็ได้ ) จะได้น้ำผึ้งจาก

     กล้วยบริสุทธิ์นำไปรับประทานได้ และสามารถนำน้ำผึ้งจากกล้วยผสมปรุงยาได้ หรือจะนำน้ำผึ้ง

     จากกล้วยผสมกับน้ำร้อนดื่ม จะทำให้ร่างกายสดชื่น





น้ำผึ้งจากกล้วยใช้เวลา ๔ เดือน






น้ำผึ้งจากกล้วยใช้เวลาหมัก ๑ เดือน









ขนมต้มสมุนไพร

สิ่งที่ต้องเตรียม

แป้งข้าวเหนียว                                                    ๑                          ถ้วย
หัวกะทิ                                                                 ๓                          ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า                                                             ๑/๓                        ถ้วย
มะพร้าวขูดขาว                                                  ๑๕๐                      กรัม
น้ำตาบปิ๊บ                                                          ๑๕๐                      กรัม
มะพร้าวทึนทึกขูด ( ขูดเป็นเส้น )                          ๑                         ถ้วย
เกลือป่น                                                              ๑/๓                       ช้อนชา

วิธีทำใส้ขนม

๑. เริ่มจากการทำไส้ขนม นำมะพร้าวขาวและน้ำตาลปิ๊บใส่ลงไปในกระทะเทปล่อนหรือกระทะทองเหลือง ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง ค่อยๆใช้ทัพพีกวนเป็นพักๆ จนน้ำตาลเริ่มละลายแล้วกวนใส้ขนมต่อไป จนน้ำตาลในกระทะแห้ง ถือว่าใช้ได้แล้ว
๒. พอใส้ขนมหายร้อนแล้ว ปั้นใส้ขนมเป็นลูกกลมๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑/๒ นิ้ว 
๓. นำมะพร้าวทึนทึกที่ขูดเป็นเส้นไปนึ่งประมาณ ๑๐ นาที พอนึ่งเสร็จแล้ว เอามาใส่จานใบใหญ่ แล้วคลุกด้วยเกลือป่นที่เตรียมไว้

ขั้นตอนการนวดแป้ง

๑. นำแป้งเข้าเหนียวลงในชามสำหรับนวดแป้ง ตามด้วยหัวกะทิ และใส่น้ำเปล่าลงไป ค่อยๆนวดจนแป้งเนียนรู้สึกนุ่มมือและแป้งที่นวดไม่ติดมือ
๒. นำแป้งที่นวดมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑/๒ นิ้ว แล้วแผ่แป้งให้เป็นแผ่น ใส่ใส้ที่ปั้นไว้ลงตรงกลาง แล้วแป้งจนมิดใส้ ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างคลึงให้เป็นก้อนกลมๆ
๓. นำก้อนขนมที่ปั้นเสร็จแล้วเอาขนมลงต้มในน้ำเดือดจนสุก วิธีสังเกตว่าขนมสุกหรือยัง ถ้าตัวขนมลอยขึ้นมา แสดงว่าแป้งสุกแล้ว ให้ตักใส่จานมะพร้าวที่เตรียมไว้ คลุกขนมที่ต้มสุกแล้วด้วยมะพร้าวจนทั่ว แล้วตักใส่จานทานร้อนๆได้เลย

หมายเหตุ  สีเขียวได้จากใบเตย
                 สีน้ำเงินได้จาดดอกอัญชัญ
                 สีส้มได้จากน้ำแครอท
                 สีแดงได้จากน้ำแตงโม

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การแปรรูปผลผลิต การแปรรูปอาหาร

คอยพบกับความก้าวหน้าในการแปรรูปอาหารและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ในเร็วๆนี้